简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
ความเป็นมาของ"ดาร์กเว็บ"ภัยเงียบที่ทุกคนควรระวัง!
บทคัดย่อ:บทความนี้พาผู้อ่านไปรู้จักกับ “ดาร์กเว็บ” พื้นที่ลับของอินเทอร์เน็ตที่มักใช้ในการซื้อขายข้อมูลผิดกฎหมาย เช่น บัญชีการเงิน ข้อมูลบัตรเครดิต และซอฟต์แวร์แฮกระบบ ซึ่งกลายเป็นภัยคุกคามสำคัญต่อความปลอดภัยของนักเทรด โดยเฉพาะในยุคที่การลงทุนเชื่อมโยงกับโลกออนไลน์อย่างแน่นแฟ้น บทความยังแนะนำวิธีป้องกันตัวเอง 5 ข้อ เช่น ใช้ 2FA และตั้งรหัสผ่านอย่างรัดกุม เพื่อป้องกันไม่ให้ข้อมูลส่วนตัวหลุดไปยังพื้นที่อันตรายเหล่านี้ พร้อมย้ำว่า “การรู้เท่าทัน” คือเกราะป้องกันชั้นแรกของนักลงทุนยุคดิจิทัล.

วันนี้แอดเหยี่ยวไม่ได้มาชี้เป้าหุ้นเด็ด หรือแนวโน้มคริปโตตัวไหนจะไปต่อ แต่จะพาทุกคนไปรู้จักโลกอีกด้านของอินเทอร์เน็ตที่หลายคนไม่อยากยุ่งด้วย นั่นคือ “ดาร์กเว็บ” พื้นที่ลับที่ข้อมูลของคุณอาจกำลังถูกซื้อขายโดยไม่รู้ตัว
นักเทรดส่วนใหญ่อาจมองว่าเรื่องนี้ไกลตัว แต่ในความจริง ดาร์กเว็บคือแหล่งใหญ่ของข้อมูลการเงินที่ถูกแฮก ถูกขโมย และถูกซื้อขายอย่างโจ่งแจ้ง ข้อมูลที่คุณใช้เทรดในแต่ละวันอาจไม่ได้ปลอดภัยอย่างที่คิด
ดาร์กเว็บคืออะไร และมีที่มาอย่างไร?
ดาร์กเว็บ (Dark Web) คือส่วนลึกของโลกอินเทอร์เน็ตที่ซ่อนตัวจากการค้นหาปกติ เว็บไซต์ในนี้ไม่สามารถเข้าผ่าน Google หรือเบราว์เซอร์ทั่วไปได้ และไม่สามารถเข้าถึงได้โดยไม่ใช้เครื่องมือเฉพาะ
จุดเริ่มต้นของดาร์กเว็บเกิดขึ้นราวต้นยุค 2000 จากงานวิจัยของ Ian Clarke ชื่อว่า Freenet ซึ่งพัฒนาเพื่อปกป้องสิทธิเสรีภาพในการแสดงออก และต่อต้านการควบคุมจากรัฐ ฟังดูดีใช่ไหมครับ? แต่ในโลกความจริง เมื่อมีเครื่องมือปกปิดตัวตน ก็ย่อมมีคนใช้ในทางที่ไม่ดี
ต่อมาโครงการ TOR หรือ The Onion Router ได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯ เพื่อให้หน่วยข่าวกรองสามารถส่งข้อมูลในพื้นที่เสี่ยงภัยได้อย่างปลอดภัย แต่ TOR กลับกลายเป็นช่องทางหลักในการเข้าถึงดาร์กเว็บในปัจจุบัน เพราะมันสามารถปกปิดที่อยู่ IP และตัวตนของผู้ใช้งานได้อย่างแนบเนียน
ดาร์กเว็บทำงานอย่างไร?
ดาร์กเว็บดำเนินการอยู่บนเครือข่ายที่ซับซ้อนและป้องกันการเข้าถึงจากบุคคลภายนอก โดยใช้การเข้ารหัสหลายชั้นและไม่เปิดเผยเส้นทางของข้อมูล ด้วยเหตุนี้การเข้าถึงจึงต้องใช้เบราว์เซอร์เฉพาะเช่น TOR ที่สามารถนำทางเข้าสู่เว็บไซต์ในเครือข่ายลับเหล่านี้ได้
ไม่สามารถค้นหาเว็บไซต์ในดาร์กเว็บได้ผ่าน Search Engine ปกติ ข้อมูลต่าง ๆ ถูกซ่อน และจำเป็นต้องทราบ “ลิงก์เฉพาะ” จึงจะเข้าถึงได้ นั่นทำให้มันกลายเป็นที่หลบซ่อนของการกระทำผิดกฎหมายต่าง ๆ อย่างง่ายดาย

บนดาร์กเว็บมีอะไรขาย?
ตลาดในดาร์กเว็บมีสินค้าที่ผิดกฎหมายเกือบทุกประเภท เช่น
- ข้อมูลบัตรเครดิตที่ถูกขโมย
- บัญชีสกุลเงินดิจิทัล โดยเฉพาะที่มีธุรกรรมจำนวนมาก
- เอกสารราชการปลอม เช่น บัตรประชาชน ใบขับขี่
- ข้อมูลการเข้าสู่ระบบโซเชียลมีเดีย
- ซอฟต์แวร์เจาะระบบ มัลแวร์ หรือไวรัสที่ใช้โจมตีระบบคอมพิวเตอร์
แฮกเกอร์มักเจาะระบบองค์กรขนาดใหญ่เพื่อขโมยข้อมูลจำนวนมหาศาล แล้วนำมาขายต่อในดาร์กเว็บ ผู้ที่ซื้อข้อมูลเหล่านี้ก็มักจะนำไปใช้ในทางที่ผิด เช่น ปลอมแปลงตัวตน หลอกลวง หรือละเมิดสิทธิ์ของบุคคลอื่น
นักเทรดต้องระวังอย่างไร?
สำหรับนักเทรด ข้อมูลที่ใช้ในการล็อกอิน เทรด หรือจัดการเงินในโลกออนไลน์ ถือเป็น “ทรัพย์สิน” ที่มีมูลค่าสูงมาก หากรั่วไหลไปสู่ดาร์กเว็บ อาจไม่ใช่แค่เสียเงิน แต่เสียความน่าเชื่อถือ หรืออาจกระทบการลงทุนระยะยาว
ต่อไปนี้คือ 5 วิธีป้องกันตัวเองไม่ให้กลายเป็นเหยื่อของดาร์กเว็บ:
- ติดตั้งโปรแกรมป้องกันไวรัสที่ทันสมัย
ตรวจสอบและกำจัดไวรัสหรือมัลแวร์ที่อาจแฝงมาโดยไม่รู้ตัว
- ตั้งรหัสผ่านที่เดายากและอัปเดตสม่ำเสมอ
ใช้ตัวพิมพ์ใหญ่-เล็ก ผสมตัวเลขและสัญลักษณ์
- อย่าคลิกลิงก์จากแหล่งที่ไม่รู้จัก
โดยเฉพาะอีเมลหรือข้อความที่ดูน่าสงสัย
- เปิดใช้งานระบบยืนยันตัวตนสองขั้นตอน (2FA/MFA)
ป้องกันบัญชีแม้มีคนรู้รหัสผ่าน
- ระมัดระวังการโพสต์หรือแชร์ข้อมูลส่วนตัวบนโซเชียลมีเดีย
ข้อมูลเล็กน้อยอาจกลายเป็นช่องโหว่ใหญ่ให้แฮกเกอร์ใช้เล่นงาน
สรุป
ดาร์กเว็บอาจไม่ใช่สิ่งที่นักเทรดทั่วไปอยากเข้าไปยุ่ง แต่การรู้เท่าทันและเข้าใจว่าโลกออนไลน์ไม่ได้มีแค่ด้านสว่างเท่านั้น จะช่วยให้คุณป้องกันตัวเองจากความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัว
อย่ารอให้พอร์ตเสียหาย หรือบัญชีถูกเจาะแล้วค่อยป้องกัน เริ่มตั้งแต่วันนี้ เปลี่ยนพฤติกรรมเล็ก ๆ เพื่อไม่ให้ข้อมูลหลุดไปอยู่ในที่ที่ไม่ควรอยู่ เพราะโลกของการเงินที่ปลอดภัย ต้องเริ่มจาก “การรู้เท่าทันภัยไซเบอร์”
แล้วเจอกันใหม่ในบทความหน้าจากแอดเหยี่ยว
ผู้เฝ้าระวังทุกความเคลื่อนไหวในโลกไซเบอร์ เพื่อเหล่านักเทรดเช่นคุณ
อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย :https://www.wikifx.com/th/original.html?source=tso4
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ อีกทั้งยังมีบริการ EA VPS บนแอป WikiFX อีกด้วย แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
อ่านเพิ่มเติม

คณะกรรมการตัดสินรางวัล Voices of the Golden Insight Award | จอร์จ จอร์จิอู
คณะกรรมการตัดสินรางวัล Voices of the Golden Insight Award | จอร์จ จอร์จิอู ผู้ก่อตั้งร่วมและกรรมการผู้จัดการของ Dynamic Works

จับเวลาไม่แม่น = พังแน่! เคล็ดลับเทรดฟอเร็กซ์ ตามเวลาให้รอด
แม้ตลาด Forex จะเปิดทำการ 24 ชั่วโมงต่อวัน แต่ช่วงเวลาแต่ละเซสชันมีผลต่อความผันผวนและสภาพคล่องอย่างมาก การเข้าออเดอร์ในเวลาที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้เกิดสลิปเพจหรือพลาดโอกาสทำกำไร บทความนี้อธิบายเวลาทำการหลักของตลาด Forex ได้แก่ Tokyo, London, New York และ Sydney พร้อมแนะนำช่วงเวลาที่มีสภาพคล่องสูง เทคนิคปรับกลยุทธ์ตามเซสชัน และข้อควรระวังสำหรับนักเทรดมือใหม่ การเข้าใจเวลาตลาดเป็นกุญแจสำคัญในการวางแผนเทรดอย่างมีประสิทธิภาพ ลดความเสี่ยง และเพิ่มโอกาสสร้างกำไรอย่างยั่งยืน

นักเทรดมือใหม่ระวัง! เทรนด์ตลาดไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ ถ้าไม่รู้จักต้องอ่าน
เทรนด์ในตลาด Forex คือทิศทางโดยรวมของราคาสินทรัพย์ในช่วงเวลาหนึ่ง ซึ่งสะท้อนพฤติกรรมของผู้เล่นในตลาด การเข้าใจเทรนด์เป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับนักเทรด เพราะช่วยลดความเสี่ยง เลือกจังหวะเข้าตลาดอย่างมีเหตุผล และสร้างกำไรอย่างต่อเนื่อง บทความนี้อธิบายประเภทเทรนด์ ได้แก่ ขาขึ้น ขาลง และด้านข้าง พร้อมแนวทางสังเกตเทรนด์ด้วยเครื่องมือ เช่น เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ แนวรับ–แนวต้าน อินดิเคเตอร์ และการวิเคราะห์หลายกรอบเวลา การเข้าใจเทรนด์จึงเป็นกุญแจสำคัญในการตัดสินใจอย่างมีวินัยและประสิทธิภาพในตลาด Forex

สัญญาณเตือนจาก Vitalik 2 ภัยคุกคามที่อาจทำให้ Ethereum ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
ในงาน Devconnect Vitalik Buterin ผู้ร่วมก่อตั้ง Ethereum เตือนว่าการถือครอง ETH ของสถาบันการเงินยักษ์ใหญ่ เช่น BlackRock อาจสร้างสองภัยคุกคามต่อเครือข่าย ได้แก่ การสูญเสียอุดมการณ์ Ethereum และการรวมศูนย์ระบบมากเกินไป สิ่งนี้อาจทำให้นักพัฒนาหลักถอนตัว และระบบเปิดที่ทุกคนเข้าถึงได้เสื่อมค่า Vitalik จึงเน้นว่าชุมชนต้องยืนหยัดในคุณค่าหลักของ Ethereum เพื่อรักษาความเป็นระบบเปิดและโปรโตคอลที่ทุกคนมีส่วนร่วม การเข้าใจเจตนาของเขาจึงช่วยให้นักลงทุนเห็นภาพใหญ่และประเมินอนาคตของ Ethereum ได้ชัดเจนขึ้น
WikiFX โบรกเกอร์
STARTRADER
octa
XM
VT Markets
TMGM
Plus500
STARTRADER
octa
XM
VT Markets
TMGM
Plus500
WikiFX โบรกเกอร์
STARTRADER
octa
XM
VT Markets
TMGM
Plus500
STARTRADER
octa
XM
VT Markets
TMGM
Plus500
